Go by Example: Maps
Maps เป็นประเภทข้อมูลที่เชื่อมโยงกันภายในของ Go (บางครั้งเรียกว่า
hashes หรือ dicts ในภาษาอื่น)
• เมื่อต้องการสร้าง Maps ปล่าให้ใช้
builtin make: make(map[key-type]val-type).
Set key/value คู่โดยทั่วไป
name[key] = val
syntax.
• การปริ้น Map ด้วย
Println จะแสดงคู่คีย์ / ค่าของคีย์ทั้งหมด | รับค่าสำหรับคีย์พร้อมด้วย
name[key]
.
• เลียนแบบ builtin จะส่งกลับจำนวนคู่คีย์
/ ค่าเมื่อเรียกค้นบน Map
• การลบภายในจะลบคู่คีย์ / ค่าออกจาก Map
• ค่าส่งกลับที่เป็นตัวเลือกที่สองเมื่อรับค่าจาก
Maps จะระบุว่ามีคีย์อยู่ใน Map หรือไม่
ใช้คีย์นี้กับคีย์ที่ ขาดหายไปและคีย์ที่มีค่าเป็นศูนย์เช่น 0 หรือ ""
ที่นี่เราไม่จำเป็นต้องมีค่าด้วยตัวเองดังนั้นเราจึงละเว้นด้วยตัวระบุที่ว่าง ด้วย
_
• นอกจากนี้คุณยังสามารถประกาศและเริ่มต้น Maps ใหม่ในบรรทัดเดียวกับไวยากรณ์นี้
• โปรดทราบว่า Map จะปรากฏในแบบฟอร์ม
map[k: v k: v] เมื่อพิมพ์ด้วย
fmt.Println
Go by Example: Range
Range iterates
มากกว่าองค์ประกอบในความหลากหลายของโครงสร้างข้อมูล ลองดูวิธีใช้ range กับโครงสร้างข้อมูลบางส่วนที่เราได้เรียนรู้ไปแล้ว
• ที่นี่เราใช้ Range เพื่อรวมตัวเลขใน Slice
อาร์เรย์ทำงานเช่นนี้เช่นกัน
• Range บน Array และ Slice ให้ทั้งดัชนีและค่าสำหรับแต่ละรายการ
ด้านบนเราไม่จำเป็นต้องมีดัชนีดังนั้นเราจึงละเว้นด้วยตัว _ เพื่อระบุที่ว่าง
• Range บน Map จะทำซ้ำผ่านคู่คีย์
/ ค่า | Range ยังสามารถย้ำผ่านเพียงคีย์ของ Map ได้ด้วย
• range on strings iterates ผ่านจุดรหัส Unicode ค่าแรกคือดัชนีเริ่มต้นของ
Rune และ Rune ตัวที่สอง
Go by Example: Functions
Functions เป็นศูนย์กลางใน
Go เราจะเรียนรู้เกี่ยวกับ Function ด้วยตัวอย่างที่แตกต่างกันเล็กน้อย
• นี่คือ Function ที่ใช้เวลาสอง
ints และส่งคืนผลรวมของพวกเขาเป็น int
• Go ต้องการผลตอบแทนที่ชัดเจนนั่นคือจะไม่ส่งคืนค่าของนิพจน์สุดท้ายโดยอัตโนมัติ
• เมื่อคุณมีหลายพารามิเตอร์ติดต่อกันของประเภทเดียวกันคุณอาจละเว้นชื่อประเภทสำหรับพารามิเตอร์ที่พิมพ์เช่นเดียวกับพารามิเตอร์สุดท้ายที่ประกาศ
• เรียกใช้ฟังก์ชันตามที่คุณต้องการโดยต้องมีชื่อ
(args)
Credit By :https://gobyexample.com/
ขอบคุณที่เข้ามาดูกันนะคับ
##########ฝากติดตามเพจของพวกเราด้วยนะคับ############
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น